ม.กาฬสินธุ์ จับมือ กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามความร่วมมือ MOU อนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาการผลิตหม่อนไหม ส่งเสริมต่อยอดพัฒนาผ้าไหมแพรวา และสิ่งทอพื้นเมือง

Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest

ม.กาฬสินธุ์ จับมือ กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามความร่วมมือ MOU อนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาการผลิตหม่อนไหม ส่งเสริมต่อยอดพัฒนาผ้าไหมแพรวา และสิ่งทอพื้นเมือง

วันนี้ (29 ส.ค. 2568) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัย อาคารเฉลิมพระเกียรติกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ๗๐ พรรษา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ร่วมกับ กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) อย่างเป็นทางการในวันนี้ เพื่อผนึกกำลังในการส่งเสริมและพัฒนาภูมิปัญญาด้านหม่อนไหมและสิ่งทอพื้นเมืองของไทย โดยมีเป้าหมายในการยกระดับผ้าไหมไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล โดยพิธีลงนามครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารและบุคลากรจากทั้งสองหน่วยงานเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

การลงนามในครั้งนี้มี รองศาสตราจารย์ ดร.สุพรรณ สุดสนธิ์ รักษาการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ และ นายนวนิตย์ พลเคน อธิบดีกรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ลงนามความร่วมมือ โดยมีพยานและผู้ร่วมงานจากฝ่ายมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อำภาศรี พ่อค้า รองอธิการบดี และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กิตติ์ธนัตถ์ ญาณพิสิษฐ์ รองคณบดีคณะศิลปศาสตร์ และหัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านสิ่งทอพื้นเมืองแพรวากาฬสินธุ์ และจากฝ่ายกรมหม่อนไหม ได้แก่ นางสาวจิราลักษณ์ ปรีดี ผู้อำนวยการสำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 3 และ นางสาวพัชรินทร์ โพธิ์ทอง ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่น ร่วมเป็นสักขีพยาน

สำหรับกรอบความร่วมมือจะมุ่งเน้นการสนับสนุนองค์ความรู้และภูมิปัญญาด้านหม่อนไหมและสิ่งทอพื้นเมือง รวมถึงการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างบุคลากรทางการศึกษาและเกษตรกรผู้ผลิตผ้าไหม นอกจากนี้ยังจะร่วมกันพัฒนาลวดลายผ้าและต่อยอดผลิตภัณฑ์ผ้าไทยเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งสนับสนุนกิจกรรมและโครงการที่เกี่ยวข้องเพื่อการจัดการเรียนการสอนทั้งในหลักสูตรและนอกหลักสูตร

หลังเสร็จสิ้นพิธีลงนาม คณะผู้บริหารจากทั้งสองฝ่ายได้มีการแลกเปลี่ยนประเด็นความร่วมมือและชมนิทรรศการผลงานจากทั้งสองหน่วยงาน สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมในการทำงานร่วมกันเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาผ้าไหมไทยให้คงอยู่คู่ชุมชน และก้าวไปสู่การเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้และชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้ยั่งยืนสืบไป

ภาพ/ข่าว : ปนัดดา โมกขะรัตน์

Share this post with your friends

Share on facebook
Share on google
Share on twitter
Share on linkedin